การแบ่งช่วงเวลาทางโหราศาสตร์ (วัน, ยาม, ฤกษ์)
ในโหราศาสตร์ “กาลเวลา” ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนับวันเดือนปีตามปฏิทินทั่วไป แต่เป็นการแบ่งช่วงเวลาที่มี “คุณภาพ” และ “อิทธิพล” ของดวงดาวและพลังงานที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะในโหราศาสตร์ไทยจะเน้นการแบ่งย่อยลงไปถึงระดับ วัน, ยาม, และฤกษ์ เพื่อใช้ในการพยากรณ์และเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับกิจกรรมต่างๆ
1. วัน (วันในสัปดาห์): อิทธิพลประจำวันของดาว
ในโหราศาสตร์ไทย วันในสัปดาห์แต่ละวันจะถูกเชื่อมโยงกับ ดาวพระเคราะห์ประจำวัน ซึ่งเชื่อว่ามีอิทธิพลต่อเหตุการณ์และพลังงานโดยรวมในวันนั้นๆ
- วันอาทิตย์ (๑): ดาวอาทิตย์ – วันแห่งการเริ่มต้น, มีอำนาจ, ยศศักดิ์, การบริหาร, ความเด่นดัง
- วันจันทร์ (๒): ดาวจันทร์ – วันแห่งอารมณ์, ความรู้สึก, เสน่ห์, การเดินทาง, การเปลี่ยนแปลง, การเงิน (เล็กน้อย)
- วันอังคาร (๓): ดาวอังคาร – วันแห่งความกล้าหาญ, การต่อสู้, การเคลื่อนไหว, การใช้แรงงาน, ความขัดแย้ง
- วันพุธ (๔): ดาวพุธ – วันแห่งการสื่อสาร, การเจรจา, การเรียนรู้, การค้าขาย, สติปัญญา
- วันพฤหัสบดี (๕): ดาวพฤหัสบดี – วันแห่งความรู้, คุณธรรม, การสนับสนุนจากผู้ใหญ่, ความสำเร็จจากปัญญา, ความเมตตา
- วันศุกร์ (๖): ดาวศุกร์ – วันแห่งความรัก, ความสุข, การเงิน, ศิลปะ, ความบันเทิง, ความสวยงาม
- วันเสาร์ (๗): ดาวเสาร์ – วันแห่งความอดทน, ความรับผิดชอบ, การทำงานหนัก, ความมั่นคง, ปัญหาอุปสรรค, ความเศร้าหมอง
การนำไปใช้: ใช้ในการดูแนวโน้มทั่วไปของเหตุการณ์ในแต่ละวัน หรือใช้ในการกำหนด ทักษา สำหรับการพยากรณ์ประจำปี (วันเกิดเป็นตัวกำหนดดาวทักษาเดิม)
2. ยาม (ช่วงเวลาแบ่งย่อยในหนึ่งวัน): คุณภาพของพลังงานที่เปลี่ยนไป
“ยาม” คือการแบ่งช่วงเวลา 24 ชั่วโมงของหนึ่งวันออกเป็นช่วงย่อยๆ โดยในโหราศาสตร์ไทย มักจะแบ่งเป็น 8 ยามใหญ่ หรือ 16 ยามย่อย (กลางวัน 8 ยาม, กลางคืน 8 ยาม) ยามแต่ละยามจะมี ดาวประจำยาม ซึ่งให้คุณและโทษต่างกันไป
- หลักการ: การนับยามมักจะเริ่มต้นจากพระอาทิตย์ขึ้น (ประมาณ 06.00 น.) เป็นยามแรกของวันนั้นๆ และแต่ละยามจะมีเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง (1.5 ชั่วโมง) หรือ 1 ชั่วโมง 15 นาที ขึ้นอยู่กับแต่ละตำรา
- ความสำคัญ:
- บ่งบอกคุณภาพของช่วงเวลา: แม้จะเป็นวันเดียวกัน แต่ยามที่แตกต่างกันก็มีคุณภาพพลังงานที่ไม่เหมือนกัน เช่น วันอังคารอาจเป็นวันแห่งการต่อสู้ แต่ในยามที่ดาวพุธเข้าครอง ก็อาจเหมาะกับการเจรจา
- ใช้ในการหาฤกษ์ย่อย: เป็นส่วนสำคัญในการเลือกเวลาที่เหมาะสมสำหรับกิจกรรมเร่งด่วน หรือกิจกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูงในระดับชั่วโมง
3. ฤกษ์ (ช่วงเวลาอันเป็นมงคล): จุดสูงสุดของพลังงานตามดาราศาสตร์
“ฤกษ์” คือ ช่วงเวลาที่ดวงดาวบนท้องฟ้ามีการโคจรอยู่ในตำแหน่งที่ส่งผลดีต่อกิจกรรมบางอย่างโดยเฉพาะ ฤกษ์มีหลายประเภทและหลายระดับความละเอียด
- ฤกษ์บน (นักษัตรฤกษ์): เป็นการแบ่งท้องฟ้าตามการโคจรของพระจันทร์เป็น 27 นักษัตรฤกษ์ (ฤกษ์ละ 13 องศา 20 ลิปดา) ฤกษ์แต่ละนักษัตรมีคุณสมบัติเฉพาะตัว เช่น ฤกษ์ที่เหมาะกับการเริ่มต้น, การเดินทาง, การแต่งงาน, การก่อสร้าง
- ฤกษ์ล่าง (ปฏิทินฤกษ์): เป็นฤกษ์ที่ได้จากการคำนวณจากปฏิทินทางจันทรคติ เช่น
- ดิถี: ข้างขึ้น ข้างแรม (บ่งบอกกำลังของจันทร์)
- วันธงชัย, วันอธิบดี, วันอุบาทว์, วันโลกาวินาศ: วันมงคลและวันไม่มงคลประจำสัปดาห์ในรอบปี
- กาลโยค: ฤกษ์ตามปีนักษัตร ซึ่งกำหนดวันธงชัย, วันอธิบดี, วันอุบาทว์, วันโลกาวินาศ ประจำปี
- ความสำคัญ:
- การเลือกช่วงเวลาทำพิธีมงคล: ใช้ในการกำหนดเวลาสำหรับงานสำคัญ เช่น แต่งงาน, ขึ้นบ้านใหม่, ออกรถ, เปิดกิจการ, บรรจุตำแหน่ง เพื่อให้กิจกรรมนั้นดำเนินไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จสูงสุด
- ส่งเสริมจุดประสงค์เฉพาะ: ฤกษ์ที่เลือกจะสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกิจกรรม เช่น หากจะเปิดร้านค้า ก็ควรเลือกฤกษ์ที่ส่งเสริมเรื่องการเงินและลูกค้า
การทำความเข้าใจเรื่อง “กาลเวลา” ในโหราศาสตร์ ไม่ใช่แค่การรู้ว่าตอนนี้กี่โมงกี่ยาม แต่เป็นการเข้าใจถึง “คุณภาพของพลังงาน” ที่แฝงอยู่ในช่วงเวลาต่างๆ ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสอดคล้องกับกระแสจักรวาล และเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั่นเองครับ