โหราศาสตร์ไทย

การทำมุมของดาวในโหราศาสตร์ไทย

ในการทำนายดวงชะตา ไม่ว่าจะเป็นโหราศาสตร์ไทยหรือสากล นอกจากการดูตำแหน่งของดาวในราศีต่างๆ แล้ว “การทำมุมของดาว” หรือ “สัมพันธ์ระหว่างดาว” (Aspects) ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการตีความค่ะ เพราะดาวแต่ละดวงจะส่งอิทธิพลถึงกันและกันเมื่ออยู่ในตำแหน่งที่สัมพันธ์กันในจักรราศี

ในโหราศาสตร์ไทย การทำมุมของดาวที่สำคัญหลักๆ มีดังนี้:

1. การทำมุม “ทับ” (0 องศา หรือ 0 องศาห่างกันไม่เกิน 1 องศา)

  • ความหมาย: ดาวสองดวง (หรือมากกว่า) โคจรมาสถิตอยู่ใน ราศีเดียวกัน และตำแหน่งองศาใกล้เคียงกันมาก
  • อิทธิพล:
    • เสริมพลัง: ดาวทั้งสองจะส่งเสริมพลังซึ่งกันและกันอย่างมาก อิทธิพลของดาวทั้งสองจะรวมกันและแสดงออกมาอย่างเด่นชัด
    • คุณ/โทษ ตามธรรมชาติของดาว: หากเป็นดาวคู่มิตร คู่สมพล จะส่งผลดีเป็นทวีคูณ แต่หากเป็นดาวคู่ศัตรู หรือดาวที่มีโทษต่อกัน ก็จะส่งผลเสียร่วมกันอย่างรุนแรงเช่นกัน
    • บ่งบอกถึงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกัน: เรื่องราวที่ดาวทั้งสองเป็นตัวแทนจะเข้ามาพร้อมกันหรือเกี่ยวพันกันอย่างแยกไม่ออก
  • ตัวอย่าง:
    • อาทิตย์ทับจันทร์: อาจหมายถึงชีวิตที่มีความผันผวนทางอารมณ์สูง (พลังของดวงอาทิตย์ส่งผลต่อจิตใจ) หรือการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก
    • พฤหัสบดีทับเสาร์: หากเป็นดาวในพื้นดวงเดิม อาจหมายถึงการต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ยากลำบาก ความจริงจังในการแสวงหาความรู้

2. การทำมุม “เล็ง” (180 องศา)

  • ความหมาย: ดาวสองดวงโคจรมาสถิตอยู่ใน ราศีที่อยู่ตรงข้ามกัน (ห่างกัน 180 องศาพอดี)
  • อิทธิพล:
    • ความขัดแย้ง/ดึงดูด: เป็นมุมที่มีพลังงานตรงข้ามกัน อาจนำมาซึ่งความขัดแย้ง ปัญหา อุปสรรค การเลือก หรือความสมดุลที่ต้องสร้างขึ้น
    • การถ่วงดุล: ในบางกรณี อาจเป็นการถ่วงดุลพลังงานให้ไม่สุดโต่งเกินไป
    • บ่งบอกถึงความสัมพันธ์กับผู้อื่น: มักเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นที่อยู่ตรงข้ามกับเจ้าชะตา เช่น คู่ครอง หุ้นส่วน หรือศัตรู
  • ตัวอย่าง:
    • อาทิตย์เล็งจันทร์: บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่ต้องหาจุดสมดุลระหว่างความเป็นตัวเอง (อาทิตย์) กับอารมณ์ความรู้สึก (จันทร์) อาจมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม หรือความขัดแย้งภายในจิตใจ
    • เสาร์เล็งอังคาร: ดาวเสาร์คือความล่าช้า อุปสรรค ส่วนอังคารคือความรุนแรง การปะทะ เมื่อเล็งกันอาจหมายถึงการต้องเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่ที่ต้องใช้ความอดทนและแรงกายแรงใจอย่างมาก

3. การทำมุม “ตรีโกณ” (120 องศา)

  • ความหมาย: ดาวสองดวงโคจรมาสถิตอยู่ในราศีที่ ห่างกัน 4 ราศี (นับรวมราศีที่อยู่ด้วย) หรือห่างกัน 120 องศา
  • อิทธิพล:
    • ส่งเสริม/กลมกลืน: เป็นมุมที่ให้คุณ ถือเป็นมุมที่ดีที่สุด มักนำมาซึ่งความราบรื่น โชคลาภ ความสำเร็จ และการสนับสนุน
    • ง่ายดาย: เรื่องราวที่ดาวทั้งสองเป็นตัวแทนมักจะดำเนินไปได้ด้วยดี มีโอกาสและจังหวะที่ดี
  • ตัวอย่าง:
    • พฤหัสบดีตรีโกณอาทิตย์: มักหมายถึงชีวิตที่มีความเจริญรุ่งเรือง ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ มีสติปัญญาดี และมีโชคลาภเข้ามาง่าย
    • ศุกร์ตรีโกณจันทร์: บ่งบอกถึงความรักความสัมพันธ์ที่ราบรื่น จิตใจรื่นเริง มีความสุขในชีวิตประจำวัน

4. การทำมุม “จตุโกณ” หรือ “โยค” (90 องศา)

  • ความหมาย: ดาวสองดวงโคจรมาสถิตอยู่ในราศีที่ ห่างกัน 3 ราศี (นับรวมราศีที่อยู่ด้วย) หรือห่างกัน 90 องศา
  • อิทธิพล:
    • ขัดแย้ง/อุปสรรค: เป็นมุมที่ให้โทษรองลงมาจากเล็งและกาลกิณี มักนำมาซึ่งความขัดข้อง อุปสรรค ปัญหาที่ต้องแก้ไข หรือความกดดัน
    • ต้องใช้ความพยายาม: เรื่องราวที่เกี่ยวข้องจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการฝ่าฟัน
  • ตัวอย่าง:
    • อังคารจตุโกณเสาร์: มักหมายถึงความขัดแย้ง ความรุนแรง อุบัติเหตุ หรือการต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักในชีวิต
    • พุธจตุโกณราหู: อาจหมายถึงปัญหาด้านการสื่อสาร การหลอกลวง การเข้าใจผิด หรือความไม่ซื่อสัตย์

5. การทำมุม “คู่สมพล / คู่ธาตุ” (60 องศา)

  • ความหมาย: ดาวสองดวงโคจรมาสถิตอยู่ในราศีที่ ห่างกัน 2 ราศี (นับรวมราศีที่อยู่ด้วย) หรือห่างกัน 60 องศา
  • อิทธิพล:
    • ส่งเสริม/ช่วยเหลือ: เป็นมุมที่ให้คุณในระดับปานกลาง มักนำมาซึ่งการช่วยเหลือเกื้อกูล การสนับสนุน หรือการเป็นพันธมิตร
    • พัฒนาการ: เรื่องราวที่เกี่ยวข้องจะมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น
  • ตัวอย่าง:
    • อาทิตย์คู่สมพลจันทร์: อาจหมายถึงการมีความร่วมมือที่ดีกับเพศตรงข้าม หรือการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในเรื่องต่างๆ
    • พฤหัสบดีคู่สมพลศุกร์: มักหมายถึงความสุขความเจริญที่มาจากการได้รับคำแนะนำที่ดี หรือการมีโอกาสดีๆ ในเรื่องความสัมพันธ์และการเงิน

ข้อควรจำเพิ่มเติม:

  • องศาที่ยอมรับได้ (Orb): ในการทำนาย มักจะมีการยอมรับองศาที่คลาดเคลื่อนเล็กน้อย (เช่น ไม่เกิน 1-3 องศา) จากองศาที่แน่นอน
  • ดาวคู่ธาตุ/คู่มิตร/คู่ศัตรู/คู่สมพล: การทำมุมของดาวจะต้องพิจารณาคู่ของดาวเหล่านั้นด้วย เช่น ดาวคู่มิตรทับกันย่อมดีกว่าดาวคู่ศัตรูทับกันมาก
  • ดาวเจ้าเรือน: ดาวแต่ละดวงเป็นเจ้าเรือนของภพใด ก็จะส่งผลต่อเรื่องราวของภพนั้นๆ ด้วย

การพยากรณ์ที่ดีต้องพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ร่วมกันอย่างละเอียด เพื่อให้ได้คำทำนายที่แม่นยำและสมบูรณ์ที่สุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *