ตรีวัยในโหราศาสตร์ไทย
ในโหราศาสตร์ไทย “ตรีวัย” เป็นหลักการสำคัญอย่างหนึ่งที่ใช้ในการพยากรณ์ช่วงชีวิตของบุคคล โดยเป็นการ แบ่งช่วงอายุของเจ้าชะตาออกเป็น 3 ช่วงหลัก เพื่อดูว่าอิทธิพลของดาวและภพเรือนใดจะมีบทบาทเด่นในแต่ละช่วงวัยนั้น ๆ ค่ะ
ความหมายของตรีวัย
คำว่า “ตรี” หมายถึง สาม และ “วัย” หมายถึง ช่วงอายุ ดังนั้น “ตรีวัย” จึงหมายถึงการแบ่งชีวิตของคนเราออกเป็น 3 ช่วงวัยหลักๆ ได้แก่:
- ปฐมวัย (วัยต้น): ช่วงชีวิตแรกเริ่ม ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยหนุ่มสาวตอนต้น
- มัชฌิมวัย (วัยกลาง): ช่วงวัยกลางคน ซึ่งเป็นช่วงชีวิตที่ผู้คนส่วนใหญ่สร้างฐานะ สร้างครอบครัว และรับผิดชอบหน้าที่การงานอย่างเต็มที่
- ปัจฉิมวัย (วัยปลาย): ช่วงวัยสูงอายุ เป็นช่วงชีวิตที่ผ่านประสบการณ์มามาก อาจเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลงาน หรือเป็นช่วงที่ต้องดูแลสุขภาพและเตรียมตัวเข้าสู่วัยชรา
หลักการคำนวณตรีวัย (โดยทั่วไป)
การแบ่งช่วงอายุของตรีวัยมีหลายตำรา แต่หลักการที่นิยมใช้กันคือ การแบ่งชีวิตคนเราออกเป็น วัยละประมาณ 25 ปี โดยบางตำราอาจแบ่งตาม “ตนุเศษ” ซึ่งเป็นจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งในดวงชะตา เพื่อกำหนดจุดเริ่มต้นของแต่ละวัย
- วัยต้น (ปฐมวัย): มักจะนับตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงช่วงอายุ 20 กว่าๆ หรือ 30 ต้นๆ ขึ้นอยู่กับหลักการคำนวณที่ใช้
- วัยกลาง (มัชฌิมวัย): ต่อจากวัยต้นไปอีกประมาณ 25 ปี
- วัยปลาย (ปัจฉิมวัย): ต่อจากวัยกลางไปจนสิ้นอายุขัย
ความสำคัญของการพยากรณ์ด้วยตรีวัย
การพิจารณาตรีวัยช่วยให้นักโหราศาสตร์สามารถพยากรณ์แนวโน้มและเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในแต่ละช่วงชีวิตได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น:
- ระบุช่วงเวลา: ทำให้ทราบว่าเหตุการณ์ต่างๆ (เช่น การเรียน, การงาน, ความรัก, การเงิน, สุขภาพ) มีแนวโน้มจะเด่นชัดหรือเกิดผลกระทบมากน้อยเพียงใดในช่วงอายุใด
- อิทธิพลของดาวและภพ: ในแต่ละช่วงวัย จะมี ดาวเจ้าวัย หรือ ภพเรือน ที่โดดเด่นและส่งอิทธิพลต่อชีวิตของเจ้าชะตาในขณะนั้น การอ่านตรีวัยจะช่วยให้รู้ว่าในช่วงวัยนั้นๆ ดาวดวงใดหรือเรื่องราวในภพใด (เช่น ภพตนุ, กดุมพะ, กัมมะ, ปัตนิ) จะมีความสำคัญเป็นพิเศษ
- วางแผนชีวิต: เจ้าชะตาสามารถนำคำพยากรณ์จากตรีวัยมาใช้ในการวางแผนชีวิต การตัดสินใจ หรือเตรียมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้เหมาะสมกับช่วงอายุของตน
ตัวอย่าง: หากในปฐมวัย ดาวเจ้าวัยไปสถิตอยู่ในภพการศึกษา (เช่น ภพศุภะ หรือ ดาวพฤหัสบดีเด่น) อาจบ่งบอกว่าช่วงวัยเด็กถึงวัยหนุ่มสาวจะโดดเด่นเรื่องการเรียนรู้ หรือหากในมัชฌิมวัย ดาวเจ้าวัยไปสถิตในภพการงาน (กัมมะ) หรือการเงิน (กดุมพะ) ก็อาจหมายถึงช่วงที่ต้องสร้างฐานะอย่างเต็มที่ เป็นต้น
การพยากรณ์ด้วยตรีวัยจึงเป็นอีกหนึ่งมิติที่ซับซ้อนแต่ทรงพลังในโหราศาสตร์ไทย ที่ช่วยให้การวิเคราะห์ดวงชะตามีความแม่นยำและเป็นรูปธรรมมากขึ้น
การแบ่งช่วง “ตรีวัย” ในโหราศาสตร์ไทย มีหลายตำราและหลายหลักการที่ใช้ ซึ่งแต่ละตำราก็มีวิธีการคำนวณที่แตกต่างกันไปเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วมักจะยึดหลักการแบ่งชีวิตออกเป็น 3 ช่วงใหญ่ๆ คือ วัยต้น วัยกลาง และวัยปลาย
หลักการแบ่งช่วงตรีวัยที่นิยมใช้
โดยหลักการทั่วไปที่พบได้บ่อย มีดังนี้:
1. แบ่งตามอายุเป็นช่วงเท่าๆ กัน (ประมาณ 25 ปี/วัย)
เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและเป็นพื้นฐาน โดยแบ่งชีวิตคนเราออกเป็น 3 ช่วง ช่วงละประมาณ 25 ปี หรือจนกว่าจะเข้าสู่วัยต่อไป
- ปฐมวัย (วัยต้น): ตั้งแต่แรกเกิด – อายุ 25 ปี (โดยประมาณ)
- อิทธิพล: เน้นเรื่องการเรียนรู้, การศึกษา, การเติบโต, ครอบครัว, พื้นฐานชีวิต
- มัชฌิมวัย (วัยกลาง): อายุ 25 – 50 ปี (โดยประมาณ)
- อิทธิพล: เน้นเรื่องการงาน, อาชีพ, การสร้างฐานะ, การสร้างครอบครัว, คู่ครอง, การเงิน, ความรับผิดชอบ
- ปัจฉิมวัย (วัยปลาย): อายุ 50 ปีขึ้นไป จนถึงสิ้นอายุขัย
- อิทธิพล: เน้นเรื่องสุขภาพ, บุญกุศล, ความสงบสุข, การเก็บเกี่ยวผลงาน, การใช้ชีวิตหลังเกษียณ
2. แบ่งตามจุด “ตนุเศษ” และกำลังดาว/วัย (มีความซับซ้อนขึ้น)
วิธีนี้จะละเอียดและซับซ้อนกว่า โดยจะมีการคำนวณ “ตนุเศษ” ซึ่งเป็นจุดสำคัญในดวงชะตา (คือดาวที่ครองฤกษ์เกิดของเจ้าชะตา) มาเป็นตัวกำหนดจุดเริ่มต้นของแต่ละวัย และจะพิจารณากำลังดาวแต่ละดวงว่ามีกำลังเท่าไร เพื่อใช้ในการคำนวณระยะเวลาของแต่ละช่วงวัย ซึ่งแต่ละวัยก็จะมี “ดาวเจ้าวัย” ที่ส่งอิทธิพลแตกต่างกันไป
- หลักการคร่าวๆ (เป็นแนวคิด ไม่ได้ลงรายละเอียดการคำนวณทั้งหมด):
- วัย 1 (ปฐมวัย): มักจะเริ่มต้นจาก ตนุเศษ ของเจ้าชะตา (ดาวที่อยู่ในนวางค์แรกของลัคนา หรือจุดที่คำนวณจากเวลาเกิด) และนับวนไปตามทักษา หรืออาจจะผูกกับดาวอาทิตย์และดาวจันทร์เป็นหลัก
- วัย 2 (มัชฌิมวัย): มักจะเริ่มต้นหลังจากวัยแรกสิ้นสุดลง และมีดาวดวงอื่นเข้ามาเป็นดาวเจ้าวัย โดยอาจเกี่ยวข้องกับดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ หรือดาวที่แสดงถึงความมั่นคง
- วัย 3 (ปัจฉิมวัย): เป็นช่วงสุดท้ายของชีวิต ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับดาวราหู ดาวเกตุ หรือดาวที่เกี่ยวข้องกับการปลดปล่อยหรือการสิ้นสุด
- ปฐมวัย (วัยเกิด – วัยหนุ่มสาว): ดาวที่ครองลัคนา (ตนุลัคน์) หรือดาวอาทิตย์และจันทร์ มักจะมีอิทธิพลมากที่สุดในช่วงนี้
- มัชฌิมวัย (วัยกลางคน): ดาวพฤหัสบดี (ปัญญา, ความเจริญ) และดาวเสาร์ (ความรับผิดชอบ, ความมั่นคง) มักจะมีอิทธิพลโดดเด่นในเรื่องการงานและการสร้างฐานะ
- ปัจฉิมวัย (วัยชรา): ดาวราหู (สิ่งลึกลับ, การปลดปล่อย) ดาวเกตุ (จิตวิญญาณ, การไม่ยึดติด) หรือดาวมฤตยู (การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่) อาจเข้ามามีบทบาทในเรื่องสุขภาพหรือการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป
สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ:
- ความยืดหยุ่นของอายุ: การแบ่งช่วงอายุเป็น 25 ปีนั้นเป็นค่าประมาณ บางตำราอาจใช้ 24 ปี, 27 ปี หรือมีการปรับตามกำลังดาวและจุดตนุเศษอย่างละเอียด
- ดาวเจ้าวัย: ในแต่ละช่วงวัย จะมี “ดาวเจ้าวัย” ที่ส่งอิทธิพลต่อเจ้าชะตามากที่สุด ทำให้เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับดาวนั้นๆ และภพที่ดาวนั้นสถิตอยู่มีความเด่นชัดขึ้น
- การผูกกับทักษา: บางครั้งการแบ่งตรีวัยก็มีการนำหลักทักษา (ดาวประจำวันเกิด) เข้ามาพิจารณาประกอบด้วย เพื่อให้การพยากรณ์แม่นยำยิ่งขึ้น
การพยากรณ์ด้วยตรีวัยเป็นศาสตร์ที่ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในโหราศาสตร์ไทยอย่างลึกซึ้ง และต้องอาศัยการคำนวณที่แม่นยำเพื่อระบุจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของแต่ละช่วงวัยได้อย่างถูกต้อง